EHR พร้อมแค่ไหน? สำรวจ 8 ระดับของ HIMSS EMR Adoption Model

ในยุคที่ระบบดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกมิติของโรงพยาบาล คำถามสำคัญที่ผู้บริหารควรถามตัวเองคือ “ระบบ EHR (Electronic Health Record) ของเราพร้อมแค่ไหน?” การปรับตัวสู่ระบบดิจิทัลที่มีมาตรฐานไม่ใช่แค่เรื่องของความสะดวก แต่เป็นหัวใจสำคัญของคุณภาพการดูแลผู้ป่วย และเพื่อช่วยให้เข้าใจภาพรวม HIMSS (Healthcare Information and Management Systems Society) ได้พัฒนา EMR Adoption Model (EMRAM) ซึ่งแบ่งระดับความพร้อมของระบบ EHR ออกเป็น 8 ขั้นตอนชัดเจน


HIMSS EMRAM: 8 ระดับของการพัฒนา EHR

HIMSS EMRAM เป็นโมเดลที่ออกแบบมาเพื่อประเมินความก้าวหน้าของโรงพยาบาลในการใช้งาน EHR ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นจนถึงการเป็นโรงพยาบาลไร้กระดาษเต็มรูปแบบ

ระดับ 0: ไม่มีระบบดิจิทัล (Basic IT Infrastructure)

โรงพยาบาลยังคงใช้ระบบเอกสารหรือการบันทึกข้อมูลแบบแมนนวล ไม่มีการใช้ระบบ IT สำหรับการดูแลผู้ป่วย

ระดับ 1: ระบบพื้นฐานด้าน IT (Ancillary Systems Activation)

เริ่มติดตั้งระบบพื้นฐาน เช่น ระบบบันทึกผลห้องแล็บ (LIS) ระบบรังสีวิทยา (RIS) หรือระบบเวชภัณฑ์ (Pharmacy Information System) แต่ระบบเหล่านี้ยังแยกกันทำงาน

ระดับ 2: ระบบข้อมูลรวมศูนย์ (Integrated Data Repository)

ข้อมูลจากระบบพื้นฐานถูกนำมารวมกันในฐานข้อมูลกลาง ทำให้ข้อมูลของผู้ป่วยถูกเชื่อมโยงระหว่างแผนกต่าง ๆ

ระดับ 3: ระบบคลินิกเบื้องต้น (Nursing/Clinical Documentation)

เริ่มใช้งาน EHR สำหรับบันทึกข้อมูลผู้ป่วย เช่น การบันทึกข้อมูลพยาบาล (Nursing Documentation) และข้อมูล Vital Signs

ระดับ 4: CPOE และ Clinical Decision Support (CDS)

เพิ่มระบบ CPOE (Computerized Physician Order Entry) เพื่อช่วยให้แพทย์ออกคำสั่งรักษาได้รวดเร็วและแม่นยำ พร้อมระบบช่วยตัดสินใจทางการแพทย์ (CDS) เช่น การแจ้งเตือนเกี่ยวกับการแพ้ยา

ระดับ 5: Closed-Loop Medication Administration (CLMA)

เน้นเรื่องความปลอดภัยของผู้ป่วยด้วยระบบ CLMA เช่น การสแกนบาร์โค้ดยาและข้อมูลผู้ป่วยเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ป่วยได้รับยาอย่างถูกต้อง

ระดับ 6: Advanced CDS และภาพไร้ฟิล์ม (PACS)

มีการใช้งาน PACS (Picture Archiving and Communication System) เพื่อจัดการภาพรังสีวิทยาโดยไม่ต้องใช้ฟิล์ม และพัฒนาระบบ CDS ให้ครอบคลุมมากขึ้น

ระดับ 7: โรงพยาบาลไร้กระดาษ (Paperless Environment)

โรงพยาบาลเข้าสู่การเป็น “Smart Hospital” เต็มรูปแบบ โดยไม่มีการใช้เอกสารใด ๆ และข้อมูลทั้งหมดถูกรวมอยู่ในระบบดิจิทัลอย่างปลอดภัย


ยุคสมัยของระบบ EHR: จากเอกสารสู่ดิจิทัลเต็มรูปแบบ

  • อดีต: โรงพยาบาลส่วนใหญ่ใช้เอกสารในการจัดการข้อมูล การบันทึกผิดพลาดหรือสูญหายเป็นเรื่องปกติ
  • ปัจจุบัน: การใช้ EHR ช่วยให้ข้อมูลถูกบันทึกอย่างเป็นระบบ ลดความผิดพลาด เพิ่มประสิทธิภาพในการดูแล
  • อนาคต: โรงพยาบาลในระดับ 7 จะเน้นการเชื่อมโยงข้อมูลแบบไร้พรมแดน เช่น เชื่อมต่อกับระบบ Health Information Exchange (HIE) หรือการใช้ AI เพื่อช่วยวิเคราะห์ข้อมูลผู้ป่วย

ความสำคัญของการเข้าสู่ระดับ 7

  • ลดข้อผิดพลาดในการรักษา: ระบบดิจิทัลช่วยให้การบันทึกข้อมูลแม่นยำ ลด Human Error
  • เพิ่มประสิทธิภาพ: บุคลากรสามารถเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็วขึ้น
  • ลดค่าใช้จ่าย: การลดการใช้กระดาษและทรัพยากรที่เกี่ยวข้อง

เทรนด์อนาคต: Smart Hospital ที่แท้จริง

การก้าวสู่ “Level 7” ไม่ใช่จุดสิ้นสุด แต่เป็นก้าวแรกของการพัฒนาโรงพยาบาลในยุค AI เช่น การใช้ Machine Learning ในการวินิจฉัยโรค หรือการออกแบบการดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคล (Personalized Healthcare)


สรุป:
การใช้ HIMSS EMRAM ช่วยให้ผู้บริหารเห็นภาพชัดเจนว่าโรงพยาบาลอยู่ในระดับใด และควรพัฒนาไปในทิศทางใด การก้าวสู่ ระดับ 7 ไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการ แต่ยังยกระดับคุณภาพการดูแลผู้ป่วย พร้อมตอบโจทย์โลกดิจิทัลในอนาคต